วันที่ 2011-11-18 04:34:02 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ – Cyberbiz
tags :
หลังจากซัมซุงจับมือกับกูเกิลคลอด Galaxy Nexus พร้อมเสียงตอบรับในทิศทางที่ดีขึ้นบนธุรกิจสมาร์ทโฟน ล่าสุดทางซัมซุงก็พร้อมเปิดตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่หัวใจแท็บเล็ตอีกครั้ง (หลังจากที่ Dell เคยนำ Streak 5 นิ้วลงตลาดไปก่อนหน้า และประสบความล้มเหลวไปแล้วก็ตาม) โดยสมาร์ทโฟนหัวใจแท็บเล็ตจากซัมซุงรุ่นที่ทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ได้รับมารีวิวในครั้งนี้ก็คือ “Samsung Galaxy Note” ที่้เพิ่งจุดพลุไปในงาน “Galaxy Note World Tour” ทีกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียเมื่อไม่กี่อาทิตย์มานี้ การออกแบบและสเปก Samsung Galaxy Note จุดเด่นหลักด้านภาพลักษณ์ภายนอกของ Samsung Galaxy Note ในเรื่องการเป็นสมาร์ทโฟนในคราบแท็บเล็ตอยู่ที่หน้าจอ Super HD AMOLED ขนาด 5.3 นิ้วบนความละเอียด WXGA 1,280×800 พิกเซลพร้อมขนาดลำตัวที่หนาเพียง 9.65 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 178 กรัม นอกจากนั้นตัวเครื่องยังมาพร้อมกับปากกา S-Pen (Advanced smart pen) ซึ่งสามารถขีดเขียนและใช้แทนระบบสัมผัสบนจอ Galaxy Note ได้ โดยสเปกของปากกาจะสามารถรับรู้แรงกดของมือได้ อีกทั้งบนตัวปากกายังมาพร้อมปุ่ม S Pen Button ที่มีความสามารถในการเรียกใช้เมนูลัด 4 เมนู ตามคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ กลับมาที่รูปลักษณ์ภายนอกรอบตัวเครื่องกันต่อ โดยทีมงานขอพลิกเครื่องไปชมด้านหลังกันบ้าง จะเห็นว่าที่บริเวณด้านบนจะเป็นส่วนของกล้องถ่ายภาพที่รองรับความละเอียดภาพนิ่งสูงสุด 8 ล้านพิกเซล (วิดีโอสามารถบันทึกบนความละเอียดสูงสุด 1080p@24~30fps) มีระบบ Auto Focus และ Macro Mode พร้อมแฟลช ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซลแบบ Fixed Focus ถัดลงมาด้านล่างต่อจากโลโก้ Samsung จะเป็นในส่วนของลำโพง และช่องเก็บปากกา S-Pen สำหรับฝาหลังของ Galaxy Note สามารถแกะออกได้ โดยภายในที่เด่นสุดจะเป็นแบตเตอรีก้อนใหญ่ 2,500 mAh และช่องใส่ซิมการ์ด (รองรับ HSPA+ up to 21Mbps 850/900/1900/2100, 4G LTE, EDGE/GPRS 850/900/1800/1900) พร้อมช่องใส่ MicroSD ที่รองรับความจุสูงสุด 32GB (แต่ตัวเครื่องจะมาพร้อม Internal Memory 16GB – ใช้จริงได้ประมาณ 11GB) ด้านปุ่มกดและพอร์ตเชื่อมต่อรอบๆ ตัวเครื่อง ในด้านหน้าจอขยับลงมาด้านล่างจะเป็นตำแหน่งของปุ่มโฮมสกรีนตรงกลางและด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเรียกเมนู ส่วนด้านขวาจะเป็นปุ่มย้อนกลับ มาในส่วนสันเครื่องด้านบนจะเป็นช่ิองเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงพร้อมความสามารถในการเป็นปุ่มซูมภาพเข้าออกเมื่ออยู่ในโหมดกล้องถ่ายภาพ ส่วนด้านล่างนอกจากซ้ายมือจะเป็นช่องเก็บปากกา S-Pen แล้ว ตรงกลางยังเป็นพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับสาย USB และชุดด่อ HDMI และสุดท้ายด้านขวามือจะเป็นปุุ่มปิด-เปิดตัวเครื่อง มาในส่วนของสเปกเครื่องด้านหน่วยประมวลผลจะเป็นดูอัลคอร์ความเร็ว 1.4GHz บนสถาปัตยกรรม ARMv7 พร้อมหน่วยความจำ 1GB (ใช้ได้จริงประมาณ 820MB) ส่วนของกราฟิกชิปที่ใช้จะเป็น Mali-400 ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็นแอนดรอยด์ 2.3 (Gingerbread) ซึ่งคาดว่าอนาคตจะสามารถอัปเดตเป็น ICS (แอนดรอยด์ 4.0) ได้ ส่วนสเปกปลีกย่อยอื่นๆ สำหรับ Galaxy Note จะมาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อ Bluetooth 3.0 และ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n พร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi Direct สำหรับแชร์มีเดียคอนเทนต์ไปยังอุปกรณ์มัลติมีเดียได้ ด้าน User Interface ที่ใช้จะยังเป็น Samsung Touchwiz / Samsung Live Panel UX เหมือนใน Galaxy S2 พร้อม Social Hub และ Samsung Apps นอกจากนั้นในส่วนของคีย์บอร์ดที่ให้มาบน Galaxy Note รุ่นขายจริงในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้จะมาพร้อมคีย์บอร์ด 4 รูปแบบคือ – Samsung Keyboard จะมาพร้อมแป้นอังกฤษและภาษาไทยพร้อมฟีเจอร์ Handwriter to Text ที่สามารถแปลงตัวเขียนภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยไปเป็นตัวพิพม์ได้ – SWYPE Keyboard ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่นอกจากพิมพ์แล้วยังสามารถใช้มือ Swype เป็นคำได้ในครั้งเดียว – DioPen ส่วนแป้นคีย์บอร์ดสุดท้ายจะไว้ใช้ร่วมกับปากกา S-Pen เพราะแป้นมีขนาดเล็ก เหมาะแก่หัวปากกา S-Pen และทำให้หน้าจอไม่รกเวลาใช้งาน จุดขาย Samsung Galaxy Note สำหรับในส่วนจุดขายของ Galaxy Note นอกจากเรื่องปากกา S-Pen แล้วในส่วนของแอปฯ ที่ให้มาก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่น่าสนใจอย่างมาก (ผู้อ่านสามารถรับชมคลิปวิดีโอประกอบเพื่อความเข้าใจที่เพิ่มขึ้น) S-Memo แอปฯ S-Memo จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับปากกา S-Pen เป็นหลัก โดยการทำงานของแอปฯ จะใช้ในการบันทึกข้อความ จดบันทึกต่างๆ รวมถึงสามารถวาดรูป พร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหัวปากกา สี และความหนาของหัวปากกาได้ อีกทั้งแอปฯ ยังรองรับการซูมเข้า-ออกด้วยวิธีใช้ 2 นิ้วจึบเข้า-ออก และเลื่อนหน้ากระดาษได้โดยใช้ 2 นิ้วสัมผัสและเลื่อนหน้าจอพร้อมๆ กัน นอกจากนั้นตัวแอปฯ ยังมาพร้อมความสามารถในการบันทึกอัตโนมัติเมื่อขึ้นหน้ากระดาษใหม่ พร้อมความสามารถในการนำรูปจาก Gallery หรือจาก Web Browser เข้ามาใช้งานใน S-Memo พร้อมความสามารถในการแชร์ไปยังเครือข่ายสังคมและระหว่างผู้ใช้กำลังใช้งานแอปฯ ต่างๆ ก็สามารถเรียก quick Note (จะเชื่อมต่อการทำงานกับ S-Memo แบบอัตโนมัติ) ได้ด้วยการกด S-Pen Button ค้างไว้และจิ้มลงบนหน้าจอ 2 ครั้งเร็วๆ S-Pen มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่จากซัมซุง สำหรับ S-Pen ถ้ามองเผินๆ แล้วจะดูคล้ายกับปากกา Stylus ทั่วไป แต่ความพิเศษของ S-Pen นอกจากเรื่องความสามารถในการรับรู้น้ำหนักการกดได้แล้ว ตัว S-Pen ยังมาพร้อมระบบล็อคทัชสกรีนเมื่อใช้ปากกาบนหน้าจอ Galaxy Note เพื่อป้องนิ้วมือไปโดนคำสั่งที่ไม่ต้องการระหว่างใช้งานปากกาได้ด้วย S-Planner แอปฯ ตัวนี้นอกจากความสามารถในการใช้บันทึกตารางนัดหมายตามวันเวลาต่างๆ เพื่อช่วยเตือนและจัดสรรเวลาทำงานได้แล้ว ตัวแอปฯ ยังมาพร้อมลูกเล่นอำนวยความสะดวกในเรื่องการซูมเข้าออกด้วยนิ้ว 2 นิ้วเพื่อเปลี่ยนมุมมองต่างๆ ได้ นอกจากนั้นในตัวแอปฯ ยังมาพร้อมความสามารถในการ Drag and drop เพื่อกำหนดเขตเวลาแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องคอยมากำหนดเวลาเป็นตัวเลขเอง (ลองชมวิดีโอด้านบนเพื่ออธิบายลูกเล่นต่างๆ ใน S-Planner เพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น) Photo Editor ในส่วนของแอปฯ Photo Editor จะมีการเพิ่มความสามารถในการใช้งานร่วมกับปากกา S-Pen ในการใช้ไดคัทรูป พร้อมความสามารถเดิมของตัวแอปฯ ในการตกแต่ง ครอป ใส่เอฟเฟกต์ในกับรูปภาพได้ตามต้องการ Video Maker สำหรับ Video Maker ที่เคยมีใน Galaxy รุ่นก่อนหน้ามาแล้ว สำหรับในเวอร์ชันนี้จะมีการปรับเปลี่ยนหลักๆ ที่การใส่ความสามารถในการใช้ S-Pen เขียนลงบนวิดีโอได้ รวมถึงด้วยความเร็วของหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถ Export วิดีโอได้รวดเร็วขึ้น Hand Motion ในส่วนของ Hand Motion ทางทีมงานขอให้รับชมจากคลิปวิดีโอด้านบนเพื่อความชัดเจนมากกว่าอธิบายเป็นตัวอักษร Kies air สำหรับแอปฯ Kies air ทางซัมซุงพัฒนามาให้สามารถส่งและดาวน์โหลดไฟล์ตั้งแต่ รูปถ่าย วิดีโอ เพลง เสียงเรียกเข้า ข้อความต่างๆ ผ่านทาง WiFi ได้ โดยการใช้งานก็เพียงเชื่อมต่อ WiFi ทั้งคอมพิวเตอร์และ Galaxy Note บน Wireless Router ตัวเดียวกัน จากนั้นตัวแอปฯ จะให้ IP มา ให้ผู้ใช้นำไปกรอกใส่ในช่อง URL ใน Web Browser เพียงเท่านั้น Voice talk เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์จุดขายที่ถูกพัฒนาใหม่สำหรับ Galaxy Note โดย Voice Talk จะเป็นเหมือนฟีเจอร์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสั่งงาน Galaxy Note ได้ด้วยเสียง (คล้าย Siri บน iPhone 4S) โดย Voice Talk เวอร์ชันใหม่นี้จะถูกเพิ่มในส่วนของหมวดหมู่และตัวอย่างรูปประโยคที่จะช่วยให้ผู้ใช้พูดคุยกับคัวเครื่องได้ถูกต้องขึ้น สำหรับการเรียก Voice Talk เพื่อใช้งานให้ผู้ใช้กดปุ่ม Home Screen 2 ครั้งติดกัน จากนั้นเมื่อต้องการสนทนากับตัวเครื่องก็เพียงกดปุ่ม “Tab & Speak” หรือจะเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการสนทนากับตัวเครื่องก่อนก็ได้ หน้าจอใหญ่ขึ้น ทำให้แอปฯ บางตัวเปลี่ยนรูปแบบไป ด้วยหน้าจอขนาด 5.3 นิ้วบนความละเอียดเทียบเท่าแอนดรอยด์แท็บเล็ต ทำให้แอปฯ บางตัว เช่น FriendCaster มีการเปลี่ยนหน้าตาการใช้งานไป รวมถึงด้วยความละเอียดหน้าจอที่สูงทำให้การใช้งานเพื่ออ่าน E-Book ทำได้สบายตาอย่างยิ่ง กล้องถ่ายภาพและทดสอบประสิทธิบายคร่าวๆ หน้าตาแอปพลิเคชันอื่นๆ ใน Samsung Galaxy Note เนื่องจากหลายแอปฯ ใน Galaxy Note เป็นตัวเดียวกันกับแอปฯ ใน Galaxy S2 ผู้อ่านสามารถกลับไปอ่านรีวิวเก่าได้โดย คลิกที่นี่ ทดสอบประสิทธิภาพ **ควรปรับคุณภาพวิดีโอเป็น 720p – 1080p ที่บริเวณมุมขวาล่างเพื่อรับชมคุณภาพที่แท้จริงจากไฟล์ต้นฉบับ** มาที่การทดสอบแรกในส่วนของวิดีโอที่ทางทีมงานขอแบ่งการทดสอบเป็น 3 ส่วนคือ คลิปแรกเป็นการถ่ายในสภาพแสงกลางแจ้ง ส่วนคลิปที่สองจะเป็นในที่ร่ม โดยแหล่งกำเนิดแสงทั้งหมดมาจากหลอดไฟและสุดท้ายเป็นคลิปทดสอบถ่ายวิดีโอในสภาพแสงน้อย และเปิดไฟแฟลชช่วยถ่าย ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจมาก โดยเฉพาะการถ่ายในสภาพแสงน้อยที่ถึงแม้จะมีสัญญาณรบกวนให้เห็นและความไม่สมูทของภาพเกิดขึ้นบ้างแต่เรื่องความคมชัดของภาพถือว่าดีใช้ได้ รับชมตัวอย่างภาพความละเอียดสูง คลิกที่นี่ มาในเรื่องการถ่ายภาพนิ่ง โดยในโหมดถ่ายภาพทางซัมซุงจัดฟังก์ชันมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาก ตั้งแต่เรื่องชดเชยแสง ระบบวัดแสง มาโครโหมด รวมถึง Shooting Mode ที่ให้มาตั้งแต่ Smile Shot Beauty หรือถ่าย Panorama ก็จัดมาแบบเดียวกันกับฟังก์ชันในกล้องคอมแพกต์ อีกทั้งตัวกล้องให้สีสันที่ค่อนข้างสดใส ฉูดฉาด และจากการทดสอบถ่ายด้วยโหมดสำเร็จรูปต่างๆ ทีมงานไม่เจอปัญหาเกี่ยวกับเรื่องถ่ายติด under แต่อย่างใด (จะเจอแต่ปัญหาจอ Super HD AMOLED ให้สีสดเกินจริงจากไฟล์ต้นฉบับอย่างมาก) ลองมาทดสอบเรื่องการใช้ปากกา S-Pen จดบันทึกและวาดรูปผ่านแอปฯ S-Memo กันบ้าง จากการการทดสอบพบว่า การวาดและเขียนด้วยปากกา S-Pen ถือว่าค่อนข้างลื่นไหล ไม่มีสะดุด ด้านการรับรู้แรงกดทำได้ดี ส่วนเรื่องความแม่นยำถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เพราะบางครั้งเมื่อวาดรูปหรือเขียนตัวหนังสือไปนานๆ อาจมีบ้างที่ปลายปากกาและเส้นที่วาดลงไปตำแหน่งไม่ตรงกันทำให้ต้องออกจากแอปฯ และเข้าใช้งานใหม่ถึงหาย แต่โดยรวมแล้วการใช้งาน S-Pen กับหน้าจอ Galaxy Note ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่ทีมงานทดสอบแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนที่มาพร้อม Stylus แบรนด์อื่นๆ มา มาทดสอบในเรื่องประสิทธิภาพการประมวลผลกันบ้างสำหรับแอปฯ Quadrant Advanced สามารถทำคะแนนอยู่ที่ 3,950 คะแนน ส่วนการทดสอบด้านการแสดงผลเว็บเพจด้วยแอปฯ Vellamo พบว่าคะแนนรวมอยู่ที่ประมาณ 707 คะแนน มาทดสอบการเรนเดอร์เกม 3 มิติกับแอปฯ NenaMark 1 และ 2 พบว่าคะแนนที่ได้สูงถึง 56.5fps และ 32.8fps ซึ่งถ้าเทียบกับแท็บเล็ต Galaxy Tab 10.1 ที่มีความละเอียดหน้าจอเท่ากันคือ 1,280×800 พิกเซล พบว่า Galaxy Note สามารถทำคะแนนได้ดีกว่ามาก (Galaxy Tab 10.1 ได้ Nena Mark 1 และ 2 อยู่ที่ 27.6fps และ 20fps) ส่วนการทดสอบสุดท้ายกับการทดสอบระบบ Multi Touch พบว่า Samsung Galaxy Note รองรับจุดสัมผัสพร้อมกันได้มากถึง 10 จุดเทียบเท่าแท็บเล็ตแอนดรอยด์ ตอบจุดขายหรือไม่/ข้อสังเกต – อย่างที่ทราบกันว่าจุดขายของ Galaxy Note อยู่ที่หน้าจอใหญ่ มีปากกา Stylus เขียนได้ ซึ่งในเรื่องการใช้งานถือว่าทำออกได้ดีและตอบจุดขายจนทีมงานขอยกให้ Galaxy Note เป็นสมาร์ทโฟนที่มีปากกา Stylus S-Pen ที่เขียนได้ดีแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา – ส่วนในเรื่องหน้าจอความละเอียดสูงเทียบเท่าแท็บเล็ต (1,280×800 พิกเซล) และการเลือกใช้จอแบบ Super HD AMOLED ทำให้ภาพที่แสดงออกมา สีสดมาก และสีดำนั้นดำสนิทจนทำให้การรับชมภาพยนตร์ FullHD 1080p ทำได้ยอดเยี่ยม แต่ทั้งนี้ด้วยการที่จอให้สีสดและสว่าง ยอมรับครับว่าถ้านำไปชมภาพยนตร์ เล่นเกม ถือว่าให้สีสวยและภาพคมมาก แต่เมื่อใช้ในการถ่ายรูปหรือถ้าใช้ตกแต่งภาพ สีจริงๆ ในไฟล์ภาพที่ได้จะไม่ตรงกับที่แสดงบนจอทันทีซึ่วอาจสร้างความหงุดหงิดแก่ผู้ใช้ได้ – มาในเรื่องจุดขายเรื่องหน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.4GHz ต้องยอมรับว่า Galaxy Note สามารถทลายข้อจำกัดเรื่องการแสดงผลเว็บเพจที่หนักด้วย Adobe Flash หรือสคริปต่างๆ ลงได้อย่างสวยงาม เพราะด้วยความเร็วหน่วประมวลผลที่มาก ทำให้การโหลดหน้าเว็บเพจลื่นไหลมาก ซึ่งนอกจากการแสดงผลเว็บเพจแล้ว การนำไปใช้เล่นเกมบนความละเอียด 1,280×800 พิกเซลสามารถทำได้อย่างลื่นไหล แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ เกมและแอปฯหลายตัวยังไม่รองรับ Samsung Galaxy Note ทำให้คนที่ชอบเล่นแอปฯ อาจผิดหวังในได้ถ้ารีบซื้อ Galaxy Note มาใช้ในตอนนี้ (โดยเฉพาะขาเกมค่าย Gameloft) – มาดูในเรื่องแบตเตอรีก้อนใหญ่ 2,500mAh ที่หลายคนคิดว่าต้องอยู่ได้นาน 2-3 วัน ซึ่งในความจริงแล้วถามว่าแบตก้อนขนาดนี้อยู่ได้นานไหม ทีมงานก็คงตอบว่าอยู่ได้นาน เพียงแต่ว่าต้อง Standby และไม่เล่นแอปฯ ที่ใช้หน่วยประมวลผลสูงๆ เพราะจากการทดสอบแล้วถ้าเล่นแบบจริงจัง เช่น เล่นเกม ชมภาพยนตร์ เล่นเว็บผ่าน 3G แบตเตอรี 2,500mAh ก็อยู่ได้แค่ไม่ถึง 10 ชั่วโมงก็หมดลงแล้ว (ทดลองหลังจากชาร์ตไฟเต็ม 100% ตั้งแต่ 10 โมงเช้า และทั้งวันก็รันโปรแกรมเทสต์ ถ่ายรูป เล่นอินเตอร์เน็ต กลับมาถึงบ้าน 3 ทุ่มกว่าๆ แบตถึงขีดเหลืองพอดี) ซึ่งถือว่าอาจไม่อึดตามตัวเลข (เพราะต้องอย่าลืมหน้าจอตัวเครื่องใหญ่ และหน่วยประมวลผลเป็นดูอัลคอร์ 1.4GHz) แต่ Galaxy Note ก็สามารถใช้งานได้ตลอดวันและดีกว่าบางแบรนด์อยู่มาก นอกจากนั้นด้วยตัวเครื่องขนาดใหญ่ หลายท่านมองด้วยตาแล้วอาจรู้สึกว่าใหญ่เกินจะใส่กระเป๋ากางเกงหรือเปล่า ซึ่งจากการทดสอบแล้วพบว่าสามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้พอดีและที่สำคัญคือ “ตัวเครื่องเบาและบางมาก” จนทำให้รู้สึกว่า Galaxy Note ดูเล็กทันที แต่ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้ที่มีมือขนาดเล็กหรือนิ้วสั้น การใช้งาน Galaxy Note ด้วยมือเดียวจะทำได้ลำบากและไม่ถนัดมาก เพราะนิ้วโป้งเวลาจะสัมผัสหน้าจออีกฝั่งหนึ่ง นิ้วจะไปถึงแค่ครึ่งจอเท่านั้น ทำให้ต้องใช้นิ้วจากอีกมือมาช่วย – ส่วนในเรื่องวัสดุที่ใช้ประกอบตัวเครื่อง ก็ตามสไตล์ซัมซุงเน้นพลาสติกยืดหยุ่นสูง ดูเผินๆ แล้วสวยงาม แต่เมื่อสัมผัส ปุ่มกดต่างๆ ตั้งแต่โฮมสกรีน, ปุ่มเปิด-ปิดตัวเครื่อง ดูไม่แข็งแรงสมราคาอย่างมาก อีกทั้งการใช้งาน Galaxy Note เป็นเวลานาน ตัวเครื่องบริเวณด้านหลังยังค่อนข้างร้อนมากด้วย – กลับมาในเรื่องกล้องทั้งถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ที่ทีมงานลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าให้สีสดและภาพคมชัดพอสมควร อีกทั้งเลนส์กล้องที่ใส่มายังมีมุมที่ค่อนข้างกว้าง และที่เด่นสุดคือสามารถถ่ายมาโครได้ใกล้พอควร รวมถึงสิ่งที่ทีมงานประทับใจมากอีกเรื่อวคือ Flash ที่คำนวณปริมาณแสงได้พอดีถึงแม้จะถ่ายใกล้แบบมาโครก็ตาม – สุดท้ายในเรื่องของ Voice talk ซึ่งเมื่อทีมงานมองในมุมมองแอนดรอยด์ยูสเซอร์ถือว่าซัมซุงทำได้ดีมาก เพราะช่วยอำนวยความสะดวกและถือเป็น Gimmick ที่มีประโยชน์ ใช้งานได้จริง แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง “Siri” บน Apple iPhone 4S ถือว่าความอัจฉริยะคงยังไม่เทียบเท่า เพราะ Voice talk ทำได้เพียงสั่งงานตามหมวดหมู่ที่ทางซัมซุงให้มาเท่านั้น แต่ใน Siri ของแอปเปิลนั้นสามารถตอบโต้และวิเคราะห์คำพูดของผู้ใช้ได้หลากหลายรูปแบบและเป็นธรรมชาติกว่ามาก ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป? ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางซัมซุง ประเทศไทยยังไม่ได้เปิดเผยราคา Galaxy Note อย่างเป็นทางการ แต่ในแวดวงไอทีได้มีการคาดการณ์ราคาไว้แล้วว่าจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 22,900 บาท ซึ่งนับว่าถ้าเรทราคาดังกล่าวเป็นจริง ถือว่าราคาของ Galaxy Note ค่อนข้างแรงเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ถ้ามองในเรื่องประสิทธิภาพและความสามารถในตัวแล้ว ทีมงานขอฟันธงครับว่า Samsung Galaxy Note ค่อนข้างคุ้มค่าครับถ้าผู้ใช้เป็นคนชอบตามเทคโนโลยี ไม่มีอคติเรื่องแบรนด์และประเทศผู้ผลิตหรือผู้ใช้ที่ชอบใช้สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ เพราะมองถนัด แน่นอนว่า Galaxy Note สามารถตอบโจทย์เหล่านั้นได้ดี อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลที่แรงที่สุดสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ที่ขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในปัจจุบันนี้ แต่ทั้งนี้ถ้าถามถึงเรื่องความเป็น Note ที่สามารถใช้ปากกา S-Pen ขีดเขียนได้ แล้วถามว่าถ้าจะซื้อ Galaxy Note มาวาดรูปแบบจริงจังจะเหมาะไหม ทีมงานขอตอบครับว่า ไม่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะ Galaxy Note ถูกออกแบบมาให้เหมาะแก่การจดโน้ตมากกว่า แน่นอนว่าปัญหาหลักที่ทดสอบคือเรื่องความเที่ยงตรงที่อยู่ในระดับพอใช้ ซึ่งจากการทดสอบพบว่าหลายครั้งที่การวาดไม่เที่ยงตรงนัก (จะลากเส้นบรรทัดนี้ แต่พอจิ้มปากกาลงไปที่จอ พอลากเส้นกลับกลายเป็นเส้นปรากฏเหนือบรรทัดที่เราต้องการลากเล็กน้อย) แต่ในอีกทางถ้าผู้ใช้จะนำความเป็น “Note” ไปใช้ในเรื่องการจดบันทึก เป็นสมุดจดข่าว หรือนำไปวาดภาพเล่น สเก็ตภาพร่างเพื่อเอาไปวาดลงรายละเอียดในคอมพิวเตอร์อีกที ส่วนนี้ Galaxy Note สามารถตอบโจทย์ได้ดีมาก ส่วนประสิทธิภาพความเร็ว และคุณภาพกล้องถ่ายภาพทีมงานขอยืนยันหลังจากทดสอบอีกครั้งครับว่า “ยอดเยี่ยมและดีตามคำคุยจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องแอปฯ Built-in ที่ให้มาครบครัน คุ้มค่ากว่าทุกแบรนด์” ซึ่งสุดท้ายถ้าผู้อ่านไม่มีอคติเรื่องแบรนด์ Samsung Galaxy Note ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ ถ้าไม่คิดมากเรื่องปุ่มและวัสดุที่ใช้ผลิตซึ่งดูบอบบางมากเหลือเกิน **สำหรับวันวางจำหน่ายและวันเปิดเผยราคา Samsung Galaxy Note อย่างเป็นทางการคือวันที่ 21 พฤศจิกายน โดยทางซัมซุง ประเทศไทยจะจับมือกับเอไอเอสเปิดตัวพร้อมแพกเกจอินเตอร์เน็ต 3G ในราคา 399 ต่อเดือน (ใช้ได้ 3GB ต่อเดือน) นาน 12 รอบบิล พร้อม Flipcover และ Speednavi** Company Related Link : Samsung AC_FL_RunContent( ‘codebase’,’download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,19,0′,’width’,’600′,’height’,’100′,’src’,’/home/images/bn_myfirst6′,’quality’,’high’,’pluginspage’,’macromedia.com/go/getflashplayer’,’wmode’,’transparent’,’movie’,’/home/images/bn_myfirst6′ ); //end AC code
ที่มา : manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9540000147088